1370 ไม่หลุดมีลุ้นไปต่อ หุ้นไทยหวังฝ่าด่าน 1430

1370 ไม่หลุดมีลุ้นไปต่อ หุ้นไทยหวังฝ่าด่าน 1430

สัปดาห์แห่งความหวัง กองทุนไหลเข้า TESG หนุนหุ้นไทยส่งท้ายปี ฝั่งกูรูแตะชาร์ต 1370ไม่ตกมีโอกาส1400จะสวยต้องผ่านด่าน1430

ดัชนีหุ้นไทย ราคาปิดซื้อขายวันนี้ (18 ธ.ค. 66) อยู่ที่ 1,393.41 จุด เพิ่มขึ้น 2.38 จุด คิดเป็น +0.17% มูลค่าตลาด 30,990.59 ล้านบาท โดยในระหว่างวันดัชนีแตะระดับสูงสุดที่ 1,396.01 จุด และร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 1,396.01 จุด 1,383.89 คะแนน

หุ้นที่มีการซื้อขายมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

1. DELTA ปิดที่ 86.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท มูลค่าการค้า 1,900,263.68 ล้านบาท

2. AOT ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 0.25 บาท มูลค่าการค้า 1,772,145.63 ล้านบาท

3. CPALL ปิดที่ 54 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการค้า 993,695.55 ล้านบาท

4. KBANK ปิดที่ 130.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการค้า 993.437 ล้านบาท

5. ปตท.สผ. ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการค้า 867,987.95 ล้านบาท

หุ้นไทย

นักวิเคราะห์การลงทุนด้านเทคนิค Liberator Securities กล่าวว่าหุ้นไทยในสัปดาห์นี้จะตามมาด้วยเงินจากกองทุน Thai ESG ที่คาดว่าจะไหลเข้ามาสนับสนุนตลาดหลักทรัพย์ในสัปดาห์นี้ ประกอบกับการประชุมธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งอาจทำให้มูลค่าของหุ้นผันผวน เยน แม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ แนะนำให้ติดตามรายงาน GDP ของสหรัฐฯ รวมถึง US Core PCE

นอกจากนี้คาดว่าตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรายชื่อหุ้นที่ได้รับเลือกเข้าและออกจากดัชนี SET50/100 ใหม่ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่น่าสนใจ เพราะคราวนี้หุ้นใหญ่หลายตัวยังไม่แน่ใจเรื่องการปรับดัชนีซึ่งอาจเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ตลาดผันผวน

“วันนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวอยู่ในทิศทางด้านข้าง หลังจากเข้าสู่วงจรการฟื้นตัวรูปตัว V เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่วันนี้ปริมาณลดลง หากดัชนียืนได้ที่ 1,370 จุด มีโอกาสทดสอบ 1,400 จุด แม้ว่าในระยะสั้นเขาอาจจะชะลอตัวลงแต่ก็ยังมีโอกาสเห็นเขาพัฒนาต่อไป เน้นรอบเก็งกำไร ตลอดสัปดาห์นี้เรายังคงเห็นดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวมีโอกาสไปต่อโดยไม่แตะจุดต่ำสุดใหม่ถือว่ายังใช้ได้ตราบใดที่ไม่ต่ำกว่า 1,370 จุด และคงระดับ 1,430 จุดไว้เป็นแนวต้านสำคัญ ระดับ. แต่อย่าลืมเล่นในช่วงตลาดหมี ดังนั้นคุณต้องเล่นด้วยความระมัดระวัง”

ขณะที่ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า พรุ่งนี้ (19 ธ.ค. 66) หลังการประชุม BOJ คาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ -0.1% ตามที่คาด แต่ตลาดจับตาดู BOJ อาจเปลี่ยน Yield Curve Control นโยบายเพื่อสะท้อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ BOJ มีแนวโน้มจะทำเช่นนั้น บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% สวนทางกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกทรงตัว ทำให้ดัชนี NIKKEI ยังคงชะลอตัวใกล้ฐาน 32,200 จุด ในทิศทางสั้นๆ เพื่อเพิ่มสูงขึ้นต่อไป รอผ่านแนวต้าน 1400-1405 จุด

เงินจาก TESG FUND จะทยอยไหลในสัปดาห์นี้จนถึงสิ้นเดือนนี้ รวมมูลค่า 10,000-20,000 ล้านบาท สอดคล้องกับการสนับสนุนของ Fund Flow ที่เริ่มกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นแล้ว 334 ลบ. และ MTD คืนสถานะ Long สุทธิในตลาดฟิวเจอร์ส 28,274 สัญญา

ติดตามการประชุม ครม.จะทบทวนค่าไฟฟ้าช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2567 ในวันพฤหัสบดีนี้ (21 ธันวาคม 2566) โดยเฉพาะเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย ราคาหน่วยละ 3.99 บาท ขณะที่ราคาค่าไฟใหม่คาดว่าจะอยู่ที่หน่วยละ 4.68 บาท หุ้นโรงไฟฟ้าที่ขายไปก่อนหน้านี้คาดว่าจะมีกำลังซื้อคืน GPSC, GULF, BGRIM